ธรรมชาติบำบัด คือ การดูแลสุขภาพด้วยวิธีทางธรรมชาติ ซึ่งมีอยู่หลายรูปแบบ เช่น การดีท็อกซ์ อโรมาเธอราปี โยคะ ชี่กง ไทเก็ก กดจุด สปา ฝังเข็ม การนวด หรือการรับประทานอาหารตามแนวทางธรรมชาติอย่าง ชีวจิต การออกกำลังกาย การดำรงชีวิต การบำบัดด้วยธรรมชาติเป็นวิธีการรักษาของแพทย์ทางเลือก ที่เน้นการรักษาด้วยธรมมชาติ ไม่พึ่งยาแผนปัจจุบัน เป็นการฟื้นฟูร่างกายและจิตใจไปพร้อมๆกัน โดยมีหลักความเชื่อที่ว่า ร่างกายของคนเราสามารถเยี่ยวยารักษาตัวเองได้
ธรรมชาติบำบัด คือ การรักษา กาย ใจ ด้วยกระบวนการทางธรรมชาติ ถ้าร่างกายอยู่ในสภาพสมดุล โรคภัยต่างๆ เช่น มะเร็ง เบาหวาน ความดันโลหิต ภูมิแพ้ ฯลฯ ก็จะไม่เกิด การดำเนินชีวิตของคนในยุคนี้เป็นการดำเนินชีวิตที่ผิดธรรมชาติ รับประทานอาหารที่มีสารเคมีปนเปื้อน อย่าง เนื้อสัตว์ก็ปนเปื้อนสารเร่งฮอร์โมน รับประทานยาที่ทำจากสารเคมี ซึ่งสารต่างๆเหล่านี้ตกค้างและสะสมอยู่ในร่างกายเราอย่างต่อเนื่องและเพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ การใช้ชีวิตที่เคร่งเครียดจนเกิดไป กังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ ไม่เวลาออกกำลังกาย สภาพร่างกายก็จะอ่อนแอ
หลักที่กล่าวไว้ว่าร่างกายสามารถป้องกันและรักษาตัวเองได้นั้น เช่น การจาม ไอ มีผื่น เป็นกลไกทางร่างกายในการกำจัดสารพิษออกมา กำลังทำความสะอาดร่งกายตามธรรมชาติ เมื่อมีสารพิษเข้าสู่ปอด ร่างกายก็จะจาม การจามแรงๆเป็นการขับพิษออกมา การที่เราเป็นไข้ก็เป็นการทำลายเชื้อโรค เวลาท้องเสียก็คือช่ว่งเวลาที่ร่างการทำความสะอาดครั้งใหญ่ ซึ่งสำหรับแนวความคิดอื่นๆจะมองว่าท้องเสียเป็นโรค แต่สำหรับธรรมชาติบำบัดคือการขับของเสียออกมานั้นเอง หากเราไปซื้อยามารับประทานก็เท่ากับว่าเราไปหยุดกระบวนขับของเสียของร่างกาย ทำให้ยังมีของเสียตกค้างอยู่ในร่างกายต่อไป หากพิษซึมผ่านเข้าเส้นเลือดไปที่ผิวหนัง ร่างกายก็จะแสดงออกมาทางผื่น ซึมไปยังไตก็จะเป็นโรคไต ธรรมชาติบำบัดกล่าวไว้ว่ากระบวนการขับพิษของร่างกายมี 5 ทางคือ จมูกคือลมหายใจ เหงือ ปัสสาวะ อุจจาระ และทางประจำเดือน
การรับประทานอาหารตามแนวหลักธรรมชาติ คือการทางแบบมังสวิรัติ ไม่รับประทานเนื้อสัตว์ หากกลัวขาดโปรตีนก็สามารถรับประทานถั่วหรือธัญญาพืชต่างๆทดแทนได้ วิธีการปรุงอาหารก็เน้นการนึ่ง ต้ม หรือรับประทานแบบสดๆ เรียกว่าให้ผ่านกระบวนการน้อยที่สุด ไม่เน้นการปิ้ง ย่าง หรือ ทอด
แนวทางรักษาโรคด้วยวิธีธรรมชาตินั้นก็มีอยู่หลากหลาย เราอาจเริ่มต้นจากสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวัน เช่น ควรตื่นนอนก่อน 6 โมงเช้า เข้าห้องน้ำขับถ่ายของเสียออกทุกเช้า รับประทานอาหารเช้าเวลาประมาณ 8 โมงเช้า และอาหารเช้าควรเป็นผักและผลไม้ รับประทานอาหารกลางวันเวลา 12.00 น.เป็นอาหารมื้อหลัก ส่วนอาหารเย็นก็รับประทานผักและผลไม้หรือน้ำผลไม้ก็ได้ และควรเข้านอนเวลา 22.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่จะทำให้เราหลับง่าย ซึ่งเป็นวิธีง่ายในการยึดหลักธรรมชาติคะ
วิธีรักษาผู้ป่วยด้วยธรรมชาติบำบัด เช่น ผู้ป่วยที่เป็นไซนัส ก็ให้ล้างจมูกด้วยน้ำอุ่นผสมเกลือเล็กน้อย, ผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานที่มีแผลเรื้อรัง ก็จะใช้สมุนพอกแผลและเน้นการตากแดด แผลก็จะยุบแห้งไป หากปวดเมื่อยร่างกายก็ให้ทำโยคะ วารีบำบัด เป็นต้น การไม่รับประทานยานเป็นวิถีทางของธรรมชาติบำบัด เพราะยาไม่เพียงแต่ฆ่าเชื้อโรค แต่ยังทำลายภูมิต้านทานในร่างกายของเราไปด้วย ยาแผนปัจจุบันเป็นเพียงการกดอาการ ไม่ได้เป็นการรักษาให้หายขาด หากตามหลักธรรมชาติบำบัดแล้วหมอเป็นพียงผู้ให้คำแนะนำปรึกษา ไม่ใช่รักษาโรค ผู้ที่รักษาคือตัวเราเองเท่านั้น
อย่างไรก็ตามการนำธรรมชาติบำบัดมาใช้ในช่วงเริ่มต้นอาจมีการปรับเปลี่ยนค่อนข้างมากสำหรับการดำรงชีวิต เราเราจะเริ่มด้วยสิ่งที่สามารถกระทำได้ง่ายๆ เช่น เน้นทานผัก ผลไม้ งดเนื้อสัตว์ เป็นตน แล้วค่อยๆเพิ่มหรือปรับพฤติกรรมอย่างอื่นไปเรื่อยๆ ก็จะไม่ทำให้เรารู้สึกลำบากหรือยุ่งยากคะ ลองค้นหาสิ่งที่เหมาะสมกับตนเองดูนะคะเพื่อสุขภาพที่ดีของตนเอง
ข้อมูลอ้างอิง
การรักษาโรคโดยวิธีธรรมชาติบำบัด : newerlife.net
ธรรมชาติบำบัด : thaicam.go.th
ทำไมต้องธรรมชาติบำบัด : thongpunchang.com
