“วัคซีนไข้เลือดออกมีผลข้างเคียงต่อร่างกายยังไงบ้าง?” ไข้เลือดออกเป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี (Dengue virus) ซึ่งแพร่ระบาดจากยุงลายตัวเมียที่เป็นพาหะนำโรค โรคไข้เลือดออกสามารถแบ่งออกเป็น 4 สายพันธุ์ ได้แก่ DENV-1, DENV-2, DENV-3 และ DENV-4 อาการของโรคไข้เลือดออกอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แต่โดยทั่วไปจะมีอาการไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ คลื่นไส้ อาเจียน และอาจมีอาการรุนแรง เช่น เลือดออก ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ และภาวะช็อกจากเลือดออก ซึ่งอาจถึงแก่ชีวิตได้
ด้วยเหตุนี้วัคซีนไข้เลือดออกเป็นวิธีการป้องกันโรคไข้เลือดออกที่มีประสิทธิภาพ วัคซีนไข้เลือดออกในปัจจุบันมี 2 ชนิด ได้แก่ วัคซีน DENGVAXIA ซึ่งเป็นวัคซีนชนิดมีชีวิตที่ถูกทำให้อ่อนฤทธิ์ และวัคซีน CYD-TDV ซึ่งเป็นวัคซีนชนิดเชื้อตาย วัคซีนไข้เลือดออกทั้งสองชนิดมีประสิทธิภาพในการป้องกันได้ประมาณ 60-80% แต่ก็มีผลข้างเคียงที่ควรรู้ไว้เช่นกัน
เช่นเดียวกับวัคซีนชนิดอื่นๆ วัคซีนไข้เลือดออกก็อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ โดยผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย ได้แก่
- อาการไข้ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย
- ผื่นแดง บวม คัน
- ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ
- คลื่นไส้ อาเจียน
- ปวดท้อง
- คัดจมูก น้ำมูกไหล
ผลข้างเคียงที่พบได้น้อย ได้แก่
- อาการแพ้อย่างรุนแรง (anaphylaxis)
- ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ
- ภาวะช็อกจากเลือดออก
อาการข้างเคียงส่วนใหญ่จะหายไปเองภายใน 1-2 วันหลังฉีดวัคซีน หากมีอาการข้างเคียงที่รุนแรงหรือเป็นกังวล ควรรีบไปพบแพทย์
ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย
ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยที่สุดของวัคซีนไข้เลือดออก ได้แก่ อาการไข้ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ผื่นแดง บวม คัน ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ คลื่นไส้ อาเจียน และปวดท้อง อาการเหล่านี้มักเกิดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมงหลังฉีดวัคซีน และมักจะหายไปเองภายใน 1-2 วัน
ผลข้างเคียงที่พบได้น้อย
ผลข้างเคียงที่พบได้น้อยของวัคซีนไข้เลือดออก ได้แก่ อาการแพ้อย่างรุนแรง (anaphylaxis) ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ และภาวะช็อกจากเลือดออก อาการแพ้อย่างรุนแรงมักเกิดขึ้นภายใน 30 นาทีหลังฉีดวัคซีน อาการอาจรวมถึงลมพิษ หายใจลำบาก หน้าบวม คอบวม และความดันโลหิตต่ำ ภาวะเกล็ดเลือดต่ำอาจเกิดขึ้นได้ประมาณ 1 ใน 10,000 คนที่ได้รับการฉีดวัคซีนไข้เลือดออก ผลข้างเคียงอาจรวมถึงเลือดออกตามไรฟัน เลือดกำเดาไหล เลือดออกในช่องปาก และเลือดออกในกระเพาะอาหาร ภาวะช็อกจากเลือดออกอาจเกิดขึ้นได้ประมาณ 1 ใน 100,000 คนที่ได้รับการฉีดวัคซีนไข้เลือดออก อาการอาจรวมถึงความดันโลหิตต่ำ หัวใจเต้นเร็ว เหงื่อออกมาก และหมดสติ
ข้อควรระวังในการฉีดวัคซีนไข้เลือดออก เพราะอาจได้รับผลข้างเคียงมาก
ผู้ที่ไม่ควรฉีดวัคซีนไข้เลือดออก ได้แก่
- ผู้ที่มีประวัติแพ้วัคซีนไข้เลือดออกชนิดใดชนิดหนึ่ง
- ผู้ที่มีประวัติแพ้อย่างรุนแรงต่อยาปฏิชีวนะในกลุ่มเซฟาโลสปอริน
- ผู้ที่มีประวัติแพ้อย่างรุนแรงต่ออาหารทะเล
- ผู้ที่มีโรคภูมิแพ้รุนแรง
- ผู้ที่มีโรคเลือด เช่น โรคโลหิตจาง โรคธาลัสซีเมีย หรือโรคเกล็ดเลือดต่ำ
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
คำแนะนำก่อนและหลังฉีดวัคซีนไข้เลือดออก
ก่อนฉีดวัคซีนไข้เลือดออก ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับประวัติทางการแพทย์ทั้งหมด รวมถึงประวัติการแพ้ยาและอาหารทะเล หากกำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ควรแจ้งให้แพทย์ทราบด้วย
หลังฉีดวัคซีนไข้เลือดออก ควรสังเกตผลข้างเคียง หากมีอาการข้างเคียงที่รุนแรงหรือเป็นกังวล ควรรีบไปพบแพทย์