การนำกัญชามาใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ในประเทศไทย

172

กระแสการนำกัญชามาใช้ในทางการแพทย์เริ่มมีการพูดถึงอย่างกว้างขวางในประเทศไทยในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ด้วยว่ากัญชาเป็นพืชที่มีสารออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทและก่อให้เกิดการเสพติดแต่มีคุณประโยชน์ในการเป็นยาด้วย ซึ่งกัญชายังถูกจัดอยู่ในรายการยาเสพติดตามกฎหมายของประเทศไทย

กัญชาทางการแพทย์

ภาพกัญชาจาก pixabay.com

ปัจจุบันมีความเคลื่อนไหวจากหน่วยงานของทั้งภาครัฐและเอกชนรวมถึงนักการเมือง เรียกร้องให้มีการทบทวนแก้ไขพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 เพื่อถอดกัญชาออกจากรายการยาเสพติด และทบทวนการใช้กัญชาทางการแพทย์ รวมถึงการเปิดเสรีการใช้กัญชาเหมือนในบางประเทศ เช่นประเทศเนเธอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา และอุรุกวัย เป็นต้น

งานวิจัยที่เกี่ยวกับกัญชาส่วนใหญ่ยังเป็นงานวิจัยในห้องปฏิบัติการหรือทำในสัตว์ทดลอง หากเป็นงานวิจัยในมนุษย์ก็มักเป็นงานวิจัยขนาดเล็กและมักเป็นการเปรียบเทียบผลการรักษาด้วยกัญชากับยาหลอกเท่านั้น จึงยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับผลการรักษาด้วยกัญชาทางการแพทย์มากนัก

การเปิดกว้างต่อการใช้กัญชาในต่างประเทศมีหลายระดับ ตั้งแต่อนุญาตให้ใช้ยาที่ผลิตจากสารสกัดจากกัญชาเพื่อเป็นยาเสริมหรือใช้ในผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาปกติ บางประเทศลดโทษทางอาญาในการเสพและถือครอง บางประเทศอนุญาตให้ใช้กัญชาเพื่อการผ่อนคลายได้

หากประเทศไทยจะดำเนินนโยบายที่เปิดกว้างต่อการใช้กัญชา การแยกประเด็นอภิปรายเรื่องการเปิดเสรีการใช้กัญชาออกจากการใช้กัญชาทางการแพทย์จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อลดความสับสนการใช้กัญชาในทางที่ผิดวัตถุประสงค์ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสังคมต่อไป