ในยุคปัจจุบันที่ชีวิตเต็มไปด้วยความเร่งรีบและความกดดัน ความเครียดได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันที่หลายคนต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นจากการทำงาน การเรียน หรือปัญหาส่วนตัวต่าง ๆ ความเครียดสะสมเป็นเวลานานอาจส่งผลเสียต่อทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต ดังนั้น การหาวิธีจัดการกับความเครียดจึงเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากการพักผ่อนให้เพียงพอและการออกกำลังกายแล้ว การรับประทานอาหารเสริมคลายเครียด ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถบรรเทาความเครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นกัน
แมกนีเซียม (Magnesium)
แมกนีเซียมเป็นแร่ธาตุที่มีบทบาทสำคัญในการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ การขาดแมกนีเซียมอาจทำให้รู้สึกเครียด วิตกกังวล และนอนไม่หลับ การรับประทานอาหารเสริมคลายเครียดที่มีส่วนผสมของแมกนีเซียม จะช่วยลดความเครียดและปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับได้ โดยแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยแมกนีเซียม ได้แก่ ถั่วต่าง ๆ เมล็ดฟักทอง ผักใบเขียว และธัญพืชไม่ขัดสี
L-Theanine
L-Theanine เป็นกรดอะมิโนที่พบได้ในชาเขียวและชาดำ มีคุณสมบัติช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวลโดยไม่ทำให้ง่วงนอน การศึกษาหลายชิ้นพบว่า L-Theanine สามารถช่วยเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลายและปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ นอกจากการดื่มชาเขียวหรือชาดำแล้ว ยังสามารถรับประทาน L-Theanine ในรูปแบบอาหารเสริมคลายเครียดได้ โดยทั่วไปแล้วการรับประทาน 200-400 มิลลิกรัมต่อวันถือว่าปลอดภัยสำหรับผู้ใหญ่ทั่วไป
วิตามินบีรวม (B-Complex Vitamins)
วิตามินบีรวมประกอบด้วยวิตามินบีหลายชนิด ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการทำงานของระบบประสาทและการผลิตสารสื่อประสาทที่ช่วยควบคุมอารมณ์ การขาดวิตามินบีอาจทำให้รู้สึกเครียด หงุดหงิด และเหนื่อยล้า การรับประทานอาหารเสริมคลายเครียดที่อุดมไปด้วยวิตามินบีรวม จึงสามารถช่วยเพิ่มพลังงานและลดความเครียดได้ แหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินบี ได้แก่ ไข่ นม ถั่ว เนื้อสัตว์ และธัญพืชไม่ขัดสี
โอเมก้า-3 (Omega-3 Fatty Acids)
กรดไขมันโอเมก้า-3 มีบทบาทสำคัญในการทำงานของสมองและระบบประสาท การศึกษาพบว่าการรับประทานโอเมก้า-3 อย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยลดอาการซึมเศร้าและความวิตกกังวลได้ นอกจากนี้ ยังช่วยปรับปรุงความจำและความสามารถในการเรียนรู้ แหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยโอเมก้า-3 ได้แก่ ปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า และปลาซาร์ดีน รวมถึงเมล็ดเจีย เมล็ดแฟลกซ์ และวอลนัท
อย่างไรก็ตาม ก่อนเริ่มรับประทานอาหารเสริมคลายเครียดประเภทใด ๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีโรคประจำตัวหรือกำลังรับประทานยาอื่น ๆ อยู่ นอกจากนี้ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ การออกกำลังกายสม่ำเสมอ และการฝึกเทคนิคผ่อนคลายความเครียด เช่น การทำสมาธิหรือโยคะ ก็เป็นวิธีที่ช่วยจัดการกับความเครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยต่อร่างกายเช่นกัน