อาการเนื้องอกที่มองเห็นได้ง่าย บริเวณไหนบ้าง ควรสังเกตอย่างไร

4

เนื้องอกเป็นกลุ่มของเซลล์ที่เติบโตผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้หลายส่วนของร่างกาย บางครั้งเนื้องอกเหล่านี้อาจอยู่ใต้ผิวหนัง ทำให้สังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า บทความนี้จะมาแนะนำวิธีสังเกตอาการเนื้องอกที่มองเห็นได้ง่ายในเบื้องต้น เพื่อให้คุณสามารถรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัย ตรวจพบเนื้องอกได้เร็ว และรักษาได้ทันท่วงที

อาการเนื้องอก

สังเกตอาการเนื้องอกที่มองเห็นได้ง่าย บริเวณไหนบ้าง และสังเกตอย่างไร ?

บริเวณที่มักพบอาการเนื้องอก

เนื้องอกสามารถเกิดขึ้นได้ทั่วร่างกาย แต่บริเวณที่พบบ่อย ได้แก่

  • ผิวหนัง : เนื้องอกบนผิวหนังมักพบได้ทั่วไป อาจสังเกตได้จากลักษณะเป็นไฝ ตุ่ม ติ่งเนื้อ ก้อนนูน หรือผิวหนังที่เปลี่ยนสี เปลี่ยนแปลงรูปร่าง ขนาด มีเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกันไป หรือมีแผลเรื้อรัง
  • เต้านม : เนื้องอกเต้านมมักคลำพบก้อนเนื้อนูน ผิวหนังบริเวณเต้านมอาจมีการเปลี่ยนแปลง เช่น บุ๋ม ย่น มีสีแดง หรือหัวนมผิดปกติ
  • อวัยวะเพศ :  เนื้องอกอวัยวะเพศอาจมีลักษณะเป็นก้อนเนื้อนูน ตุ่ม แผลเรื้อรัง หรือตกขาวผิดปกติ อาจมีเลือดออกหรือมีกลิ่นผิดปกติ
  • ช่องปาก : เนื้องอกช่องปากมักสังเกตได้จากแผลเรื้อรัง ตุ่ม หรือก้อนนูน หรือเนื้อเยื่อที่เปลี่ยนสี อาจมีสีขาว แดง หรือดำ
  • ระบบทางเดินอาหาร : คลำพบก้อนในท้อง ถ่ายอุจจาระลำบาก หรือมีเลือดปนในอุจจาระ

วิธีสังเกตอาการเนื้องอกที่มองเห็นได้ง่าย

  • รูปร่าง : เนื้องอกมักมีรูปร่างกลม รี หรือไม่สมมาตร ไม่สม่ำเสมอ ผิวหน้าอาจเรียบ ขรุขระ หรือเป็นหลุม ขอบเขตของเนื้องอกอาจชัดเจนหรือไม่ชัดเจน
  • ลักษณะ : สีของเนื้องอกอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับชนิดของเนื้องอก อาจเป็นสีเนื้อ สีแดง สีน้ำตาล สีดำ หรือสีอื่น ๆ เนื้องอกอาจมีขนาดเล็ก ใหญ่ หรือโตเร็ว จนถึงอาจนิ่ม แข็ง หรือเป็นน้ำ
  • อาการ : เนื้องอกบางชนิดอาจไม่มีอาการ แต่บางชนิดอาจทำให้เกิดอาการ เช่น ปวด คัน เจ็บ หรือมีเลือดออก เนื้องอกบางชนิดอาจโตขึ้นและลุกลามไปยังอวัยวะอื่นๆ

เมื่อพบอาการเนื้องอกควรปฏิบัติตัวอย่างไร ?

หากพบอาการเนื้องอกที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาโดยเร็วที่สุด  แพทย์จะทำการตรวจร่างกาย อาจส่งตรวจเพิ่มเติม เช่น อัลตราซาวด์ เอกซเรย์ หรือตัดชิ้นเนื้อ เพื่อวินิจฉัยชนิดและระยะของเนื้องอก เมื่อทราบผลวินิจฉัย แพทย์จะวางแผนการรักษาที่เหมาะสม ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิด  ระยะ และสุขภาพของผู้ป่วย โดยทั่วไปวิธีการรักษา ได้แก่

  • การผ่าตัด : เป็นวิธีการรักษาหลักสำหรับเนื้องอกส่วนใหญ่
  • ฉายรังสีบำบัด : ใช้รังสีฆ่าเซลล์มะเร็ง
  • เคมีบำบัด : ใช้ยาฆ่าเซลล์มะเร็ง
  • ฮอร์โมนบำบัด : ใช้ฮอร์โมนเพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอก

จะเห็นได้ว่าการหมั่นสังเกตและดูแลร่างกายของเรา เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้เราสามารถพบเจออาการผิดปกติต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งการป้องกันอาการเนื้องอกที่ดีที่สุดนอกจากหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ หมั่นกินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอแล้ว ยังต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพเป็นประจำอย่างต่อเนื่องทุกปีอีกด้วย 

และที่สำคัญอย่าลืมทำประกันสุขภาพ หรือประกันโรคร้ายแรงไว้เพื่อความอุ่นใจ เพราะไม่ว่าจะตรวจพบโรคร้ายใด ๆ ก็ยังมีค่าใช้จ่ายเพียงพอให้รักษาจนดีขึ้นและกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้ โดยไม่กระทบกับการเงินของคุณและครอบครัว